ระยะเวลา 4 วัน 3 คืน
วันที่ออกเดินทาง
เดินทาง
ราคา บาท
เวียดนามกลาง 4 วัน
เว้ - ดานัง - ฮอยอัน มรดกโลกทางวัฒนธรรม -
บานาฮิลล์ สะพานทองคำ (Golden Bridge)
✅ อุโมงค์ไฮเวิน เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ภูเขาที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
✅ ล่องเรือมังกร ชมวิวสวยสองฝั่ง แม่น้ำหอม “Perfume River”
✅ สะพานญี่ปุ่น สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองฮอยอัน
✅ สนุกสนานกับการ นั่งเรือกระด้ง เรือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใคร
✅ นั่ง กระเช้าแห่งบานาฮิลล์ กระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก
✅ สะพานริมเขาสุดอลังการแห่งใหม่ .. สะพานทองคำ (Golden Bridge)
* พิเศษ! นั่งรถกอล์ฟชม พระราชวังหลวงของจักรพรรดิ
** พิเศษ! สนุกสนานกับการนั่งเรือกระด้ง
*** พิเศษ! พัก Mercure Ba Na Hills 1 คืน
07.30 น. |
พร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสาร 1 เคาน์เตอร์แถวที่ 1 และ 2 (Row 1 - 2) สายการบิน ไทยแอร์เอเชีย เจ้าหน้าที่บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด คอยให้การต้อนรับและอำนวยความสะดวกก่อนการเดินทาง |
10.30 น. |
เหินฟ้าสู่ เมืองดานัง โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 363 (ไม่รวมค่าอาหารและค่าเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
12.10 น. |
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรเรียบร้อยแล้ว |
|
นำท่านสู่ เมืองดานัง (Da Nang) เมืองท่าสำคัญของเวียดนามกลางตอนใต้ ตั้งอยู่ริมชายฝั่งทะเลจีนใต้จัดเป็น 1 ใน 5 เขตการปกครองส่วนท้องถิ่นในเวียดนาม และเป็นเมืองใหญ่อันดับ 4 ของเวียดนาม เมืองที่ได้ชื่อว่า ไร้ขอทาน เพราะชาวเมืองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีภูมิทัศน์อันงดงามโดยเฉพาะชายทะเล ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเที่ยวทะเลคือเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านชาวประมงและไร่นาเขียวขจี มีผู้กล่าวว่า “ถนนที่สวยที่สุดของเวียดนามนั้นอยู่ที่ดานัง” นี้เอง |
|
|
|
นำท่านสู่ ภูเขาบานาฮิลล์ (Bana Hills ) สถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย เป็นเมืองแห่งความสนุกที่ถูกเนรมิตขึ้นบนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลมากถึงประมาณ 1,487 เมตร มีทั้งโรงแรมที่พัก วัดวาอาราม หมู่บ้านฝรั่งเศส สวนสนุก สวนดอกไม้ และกระเช้าไฟฟ้าที่ยาวที่สุดในโลก |
|
นำท่าน นั่งกระเช้าแห่งบานาฮิลล์ ซึ่งเป็นจุดไฮไลต์ของที่นี่ กระเช้าแห่งบานาฮิลล์ได้รับการบันทึกสถิติโลก โดย World Record ว่าเป็นกระเช้าที่ยาวที่สุดในโลก ในประเภท Non Stop เพราะมีความยาวถึง 5,801 เมตร และสูง 1,368 เมตร บานาฮิลล์เป็นเมืองตากอากาศแห่งสำคัญของเวียดนามตอนกลางมากว่าร้อยปีแล้ว ตั้งแต่สมัยที่เวียดนามยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส มีจุดท่องเที่ยวที่กระจายไปโดยรอบในแต่ละพื้นที่บนยอดเขา |
นำท่านสู่สวนสนุกขนาดใหญ่บนยอดเขา บานาฮิลล์ แฟนตาซี ปาร์ค (Bana Hills Fantasy Park) คือ สวนสนุกในร่มและกลางแจ้งขนาดใหญ่ โดยสร้างให้เป็นเหมือนเมืองแห่งเทพนิยายที่สวยงาม ตั้งอยู่ท่ามกลางสายหมอกบนยอดเขา บานาฮิลล์ มีหลายโซนให้ร่วมสนุกกัน อย่างเช่น ภาพยนตร์ในระบบ 3D, 4D, 5D บ้านผีสิง ถ้ำไดโนเสาร์ เกมสนุกๆ เครื่องเล่นต่างๆ รวมทั้งร้านค้าและร้านอาหารครบครัน | |
ให้ท่านเพลิดเพลินกันต่อที่ หมู่บ้านชาวฝรั่งเศส (Frence Village) หมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศสสมัยยุคกลางบนยอดเขา เป็นแหล่งรวมสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างแบบฝรั่งเศสโบราณ ซึ่งมีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก โบสถ์ ร้านขายของที่ระลึก ดื่มด่ำบรรยากาศและสัมผัสกับความโรแมนติกของฝรั่งเศสโบราณ ราวกับย้อนอดีตไปเดินเล่นที่หมู่บ้านฝรั่งเศส ซึ่งโซนหมู่บ้านฝรั่งเศส เป็นที่ตั้งของโรงแรม Mercure Banahills French Village อาคารต่างๆ มีกลิ่นอายของฝรั่งเศส ให้บริการห้องพักมากกว่า 160 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องนั้นสวยงามและมีหลากหลายรูปแบบให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อน | |
สัมผัสประสบการณ์หน้าตื่นเต้นกับการนั่ง แอร์เพลน โคสเตอร์(Alpine coaster) เครื่องเล่นกลางแจ้งที่หน้าตาเหมือนรถไฟเหาะ เป็นเครื่องเล่นที่แอบหวาดเสียวนิดๆ ผู้เล่นสามารถควบคุมความเร็วได้ด้วยตัวเอง รถที่วิ่งอยู่บนรางและมีเข็มขัดนิรภัย ซึ่งไฮไลท์ของเครื่องเล่นนี้คือ ระหว่างที่รถเคลื่อนตัวไปตามรางเราจะสามารถชมวิว แบบ 360 องศาของหุบเขาบานาฮิลล์ที่สวยงาม | |
ชม โรงไวน์ Debay Wine Cellar ออกแบบโดยสถาปนิกฝรั่งเศส ถูกสร้างขึ้นให้เป็นห้องเก็บไวน์ในปีค.ศ. 1923 โดยการขุดถูกออกแบบให้ลงไปลึกเกือบ 100 เมตร จึงทำให้เป็นห้องเก็บไวน์ที่ไม่ซ้ำใคร และมีห้องเก็บไวน์ที่มีอายุราวๆ100 กว่าปีมาแล้ว ไวน์ที่นี่จะถูกเก็บรักษาไว้ในระดับอุณหภูมิ 16 องศา ถึง 20 องศา ที่นี่มีไวน์รสดีชั้นเยี่ยม เหมาะสำหรับใครที่สนใจเรื่องการดื่มไวน์ (ไม่รวมค่าชิมไวน์) | |
นำชมสวนดอกไม้สุดโรแมนติก Le Jardin d'Amour หรือ Le Jardin Flower Garden เป็นสวนดอกไม้ที่มีความหลากหลายสไตล์กลางหุบเขา แบ่งออกเป็น 9 โซน โดยแต่ละโซนจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจ พร้อมกับตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ได้แก่ Legend Garden, Mo Spring Garden, Memory Garden, Thought Garden, Love Garden, Heaven Garden, Holy Garden, Secret Garden และ Grape Garden ซึ่งแต่ละสวนก็จะมีคอนเซ็ปต์แตกต่างกันออกไป เต็มไปด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดและสีสันสวยงาม โซนแรก คือ Legend Garden หรือ สวนดอกไม้แห่งตำนาน เป็นการเล่าเรื่องราวที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Olympia Peak ตกแต่งด้วยรูปปั้นจากเทพนิยายในกับอยู่ในเอเธนส์อียิปต์ โซนที่สอง คือ Mo Spring Garden ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงที่ถูกยกระดับขึ้นมา เป็นสวนฤดูใบไม้ผลิจะเน้นดอกไม้ที่มีสีม่วงและสีเหลืองเป็นส่วนใหญ่ โซนที่สาม คือ Memory Garden หรือ สวนแห่งความทรงจำ เป็นส่วนที่ตกแต่งด้วยรูปปั้น 4 รูป พร้อมกับอ่างน้ำด้านหน้า และมีการปล่อยน้ำไหลออกมาจากโถรูปปั้นเพื่อแสดงถึงการหลั่งไหลของความทรงจำ ซึ่งแบ่งตามฤดูกาล โซนที่สี่ คือ Thought Garden หรือ สวนแห่งความคิด เป็นอาคารที่อยู่ในสวน ซึ่งตกแต่งด้วยทราย และภายในจะมีกระดานหมากรุก เพื่อสื่อถึงการใช้ความคิดในรูปแบบสไตล์ยุโรป โซนที่ห้า คือ Love Garden หรือ สวนแห่งรัก ด้านในจะถูกตกแต่งด้วยลักษณะวัฒนธรรมสไตล์ฝรั่งเศส ดูมีชีวิตชีวา โซนที่หก คือ Heaven Garden หรือ สวนสวรรค์ เรื่องราวของสวนนี้ เป็นการเล่าถึงจุดตัดระหว่างสวรรค์และพื้นดิน ไฮไลต์ในสวนนี้ คือ ดอกระฆัง ซึ่งเป็น Signature ของ Bana Hills นั่นเอง โซนที่เจ็ด คือ Holy Garden หรือ สวนศักดิ์สิทธิ์ ด้านในจะมีรูปปั้นของเทพแห่งความรักที่คอยอวยพรและเป็นพยานให้กับคำสาบานของคู่รักทั้งหลาย โซนที่แปด คือ Secret Garden หรือ สวนแห่งความลับ เป็นโซนเขาวงกต ให้ทุกท่านได้ลองออกไปตามล่าหาความลับนั่นเอง โซนที่เก้า คือ Grape Garden หรือ สวนองุ่น ความลับของที่นี่อยู่ตรงที่มีห้องเก็บไวน์ ซึ่งมีอายุราวๆ 100 กว่าปีมาแล้ว |
|
ชม สะพานลอยฟ้าโกลเด้น (Golden Bridge) สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของบานาฮิลล์ มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น เป็นสะพานลอยฟ้าริมหน้าผาที่สวยงามมากที่สุดในโลก ถูกเนรมิตให้ตั้งอยู่ริมหน้าผาบนยอดเขาสูงจากระดับน้ำทะเลราวๆ 1,400 เมตร แบ่งทางเดินออกเป็น 8 ช่วง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 150 เมตร ตัวสะพานมีสีเหลืองทองสวยงาม พร้อมกับมีรูปปั้นมือยักษ์คล้ายกับยกชูสะพานไว้ และตลอดทางเดินถูกตกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยดอกโลบิเลียสีม่วงสดใส นอกจากจะสวยอลังการแล้ว ยังได้สัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามและกว้างใหญ่ของเมืองดานังไกลออกไปไม่มีจุดสิ้นสุด | |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
|
|
|
|
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
|
นำท่าน นั่งกระเช้าแห่งบานาฮิลล์ ลงจาก ภูเขาบานาฮิลล์ (Bana Hills) เพื่อเดินทางสู่เมืองเว้ |
|
นำท่านสู่ เมืองเว้ (Hue) อดีตเมืองหลวงในราชวงศ์เหงียน (Nguyen) ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ. 1802-1945 ปกครองโดยกษัตริย์ถึง 13 พระองค์ แม้เมืองเว้จะได้รับความเสียหายจากสงครามไปบ้าง แต่ยังคงหลงเหลือร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรืองของนครจักรพรรดิอยู่ไม่น้อย แต่ละแห่งล้วนมีเรื่องราวน่าสนใจมากมาย ตั้งแต่พระราชวัง สุสานจักรพรรดิ รวมถึงแม่น้ำหอม ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่ไหลผ่านใจกลางเมือง และด้วยความเจริญรุ่งเรืองในอดีต โบราณสถานอันงดงามและทรงคุณค่า อีกทั้งวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง องค์การยูเนสโกจึงประกาศขึ้นทะเบียนให้เมืองเว้ เป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม “World Cultural Heritage City” ในปี ค.ศ. 1993 สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นมนต์เสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยือนเมืองมรดกโลกริมแม่น้ำหอมแห่งนี้ |
นำท่านลอดผ่าน อุโมงค์ไฮเวิน (Hai Van Pass) เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดใต้ภูเขาที่ยาวที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีความยาว 6.28 กิโลเมตร เป็นทางเชื่อมระหว่างเมืองดานังกับเมืองเว้ และยังเป็นเส้นทางที่มีทิวทัศน์สวยที่สุดของเวียดนามอีกด้วย | |
กลางวัน |
บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร |
|
นำท่านชม พระราชวังหลวงของจักรพรรดิ (Dai Noi) ตั้งอยู่ใจกลางเมือง (พิเศษ นำท่านนั่งรถกอล์ฟชมความสวยงามอลังการ) ถือเป็นมรดกตกทอดอันยิ่งใหญ่และสวยงามของราชวงศ์เหวียน เป็นพระราชวังต้องห้ามที่ห้ามบุคคลภายนอกเข้าโดยเด็ดขาด สร้างตามความเชื่อแบบจีนโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ซึ่งจำลองแบบมาจากพระราชวังกู้กงหรือพระราชวังต้องห้ามที่ยิ่งใหญ่ของกรุงปักกิ่งประเทศจีน และการก่อสร้างพระตำหนักต่างๆ รวมถึงกำแพงรอบพระราชวังทั้งหมดได้นำอิฐมาจากประเทศฝรั่งเศสโดยทางเรือ พระราชวังแห่งนี้ได้รับการออกแบบให้มีกำแพงล้อมรอบถึง 3 ชั้น ซึ่งคำในภาษาอังกฤษใช้ว่า Imperial Citadel Hue ป้อมปราการกษัตริย์ หรือ อาณาจักรของกษัตริย์ภายในป้อมปราการ |
|
จากนั้น นำท่านชม วัดเทียนมู (Thien Mu) วัดแรกของราชวงศ์เหงียน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเฮือง ห่างจากพระราชวัง ประมาณ 3 กิโลเมตร สร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเหวียนฮง “เทียนมู่” แปลว่า เจดีย์แห่งเทพธิดาสวรรค์ ภายในวัดเทียนมู่มีเจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองที่ชาวเวียดนามนับถือ (เจดีย์ เฝือก เยวียน) โดยเจดีย์มีทรง 8 เหลี่ยม รูปเก๋งจีนซ้อนลดหลั่นกัน 7 ชั้น แต่ละชั้นถือเป็นตัวแทนของแต่ละภพของพระพุทธเจ้า มีรูปปั้นเทพเจ้าหกองค์เฝ้าคุ้มครอง ภายในเจดีย์มีพระสังกัจจายน์ปิดทอง พระพักตร์อิ่มเอิบกับพระพุทธอีกสามองค์อยู่ในตู้กระจก ชม เจดีย์สูง 7 ชั้น อันเก่าแก่ริมฝั่งด้านทิศเหนือของแม่น้ำหอม และเป็นที่เคารพบูชาของกษัตรยิ์เวียดนาม สร้างขึ้นในสมัยของกษัตริย์ Thieutri ในปี 1844 ซึ่งได้กลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเว้มาตลอด นอกจากนี้ ภายในวัดยังมีระฆังทองสัมฤทธิ์ใบใหญ่ น้ำหนัก 2 ตัน สูง 2 เมตร ซึ่งหากตีแล้วจะได้ยินไปไกลกว่า 10 กิโลเมตร ซึ่งหล่อขึ้นตั้งแต่ปี 1701 วิหารหลักไดฮุง สร้างในสวน มีต้นไม้กับพุ่มไม้สวยงาม พระพุทธรูปพระศรีอาริยเมตไตรย์ ตั้งเป็นองค์ประธานในห้องแรก หลังวิหารนี้เป็นวิหารกวานโว (วิหารเทพเจ้าสงคราม) ถัดไปเป็นวิหารกวามอัม ซึ่งสร้างถวายเจ้าแม่กวานอัมเทพแห่งความเมตตา |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
นำท่าน ล่องเรือมังกร ชมวิวสวยสองฝั่งแม่น้ำหอม “Perfume River” แม่น้ำหอม หรือภาษาเวียดนามเรียกว่า “ซงเฮือง” มีต้นกำเนิดของลำน้ำมาจากป่าที่อุดมไปด้วยดอกไม้ป่าที่ส่งกลิ่นหอม เมื่อดอกไม้ใบไม้ได้ร่วงหล่นลงไปในแม่น้ำและลอยมากับสายน้ำ จึงได้รับการขนานนามว่าเป็นแม่น้ำหอม แม่น้ำหอมเป็นแม่น้ำสายสั้นๆไหลผ่านกลางเมืองเว้ ในเขตจังหวัดถัวเทียน-เว้ แม่น้ำกว้างแต่ไม่ลึกและใสสะอาด ตลอดลำน้ำสองฝั่ง มีความสวยงามทั้งแมกไม้ วัดวาอาราม รวมถึงสุสานจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เหวียน ในอดีตยามค่ำคืนในแม่น้ำหอม กษัตริย์จะทรงล่องเรือชมการร่ายรำขับกล่อมดนตรี ซึ่งการแสดงนี้ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น มาจนปัจจุบันให้นักท่องเที่ยวได้รับชมบรรยากาศในอดีต ชมการขับร้องดนตรีพื้นเมือง ตลอดจนชมวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำหอม นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Belle Maison Hadana Hoi An Hotel (4*) หรือ เทียบเท่า |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
|
นำท่านสู่ สุสานจักรพรรดิ์ไคดิงห์ (Tomb of Khai Dinh) เป็นสุสานเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกเข้ากับสถาปัตยกรรมตะวันตก ด้วยทรงเป็นจักรพรรดิในราชวงศ์เหงียนพระองค์เดียวที่ได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส สุสานแห่งนี้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดี โดยใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 11 ปี แล้วเสร็จในปี 1931 พระเจ้าไคดิงห์เป็นพระบิดาบุญธรรมของพระเจ้าเบ๋าได่ ทรงครองราชย์ 9 ปี ในยุคที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครอง ทางเดินขึ้นสุสานได้รับการตกแต่งเป็นบันไดมังกรอันโอ่อ่า ขึ้นสู่ลานชั้นหนึ่ง จากนั้นมีบันไดต่อไปยังลานชั้นสองที่เรียงรายด้วยรูปปั้นหินของช้าง ม้า ข้าราชการทั้งบู๊และบุ๋น ใจกลางลานมีแผ่นจารึกเขียนด้วยอักษรจีน นิพนธ์โดยพระเจ้าเบ๋าได่ เพื่อรำลึกถึงพระบิดาของพระองค์ ส่วนด้านบนสุดเป็นพระราชวังเทียนดิงห์ ภายในมีการตกแต่งอย่างสวยงามด้วยการใช้กระเบื้องสีปูพื้นจิตรกรรมฝาผนังภาพ “มังกรในม่านเมฆ” ขนาดใหญ่ที่ศิลปินวาดโดยใช้การเขียนภาพด้วยเท้า ประดับอยู่บนเพดานกลางห้องโถง ห้องมุขสีเขียวหยกนำไปสู่ทางซ้ายและขวา ภาพเฟรสโกอันเต็มไปด้วยสีสันที่ตกแต่งด้วยการฝังกระจกสีและกระเบื้องนับพันชิ้น แสดงถึงเรื่องราวมากมายของสัตว์ ต้นไม้ และดอกไม้ ตลอดจนรูปปั้นสำริดขนาดเท่าองค์จริงของพระเจ้าไคดิงห์ ซึ่งสร้างที่ฝรั่งเศสในปี ค.ศ. 1922 ตั้งอยู่บนยกพื้นด้านบนของสุสาน |
|
นำท่านสู่ ตลาดดองบา เป็นตลาดสินค้าที่มีขนาดใหญ่ของเมืองเว้ (Hue) ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำเหือง หรือแม่น้ำหอม สินค้าที่นี่สามารถต่อรองราคาได้และควรต่อรองอย่างยิ่ง เพราะราคาจะบอกผ่านหมดทุกอย่างบางอย่างก็บอกราคาสูง ส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน เช่น เสื้อผ้า กระเป๋าเดินทาง เกรดของสินค้าพอๆกับราคา สำหรับของฝากที่ใช้ในครัวเรือนที่เป็นของท้องถิ่นจริงๆ ได้แก่อาหารแห้ง ปลาหมึก กุ้งแห้ง ซึ่งมีราคาถูกกว่าบ้านเรา หรือเลือกนั่งสามล้อ (ไม่รวมค่านั่งสามล้อชมเมือง) ชมเมืองเว้ (เมืองหลวงเก่าของเวียดนาม) สามล้อมีชื่อว่า ซิกโล่ว์ หรือ ซิโคล่ (Cy Clo) นั่งชมรอบเมืองประมาณ 1 ชั่วโมง ท่านจะได้ชมสภาพบ้านเมืองแบบใกล้ชิดตามเส้นทางที่กำหนดไว้แน่นอนแล้ว เช่น ผ่านคูคลอง กำแพง โบราณ วัด ศาลเจ้า เมืองเก่า บอกสามล้อว่า City tour สามล้อจะพาทัวร์เอง |
กลางวัน |
|
|
นำท่านสู่ เมืองฮอยอาน (Hoi An) ระหว่างทางแวะจุดชมวิวให้ท่านได้ถ่ายรูป และบันทึกภาพอันแสนสวยไว้เป็นที่ระลึก เมืองฮอยอาน เมืองโบราณเมื่อสามร้อยปีก่อนและยังเป็นเมืองท่าสมัยศตวรรษที่ 17-19 ที่กลุ่มชาวดัทช์, โปรตุเกส, จีนและญี่ปุ่น ที่เข้ามาเมืองไทยจะใช้เมืองฮอยอานเป็นศูนย์กลางซึ่งเมืองฮอยอานนี้เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ริมฝั่งแม่น้ำ ได้รับการบันทึกไว้เป็น “มรดกโลก” จากยูเนสโก้ ในปัจจุบัน ตัวเมืองฮอยอานยังคงสภาพเดิมเหมือนในอดีต บ้านเรือนส่วนใหญ่เป็นแบบทรงจีน เพราะเมื่อก่อนเป็นชาวจีนที่อพยพ เข้ามาอยู่ และได้ตั้งถิ่นฐานอยู่ในเวียดนาม ชม เมืองฮอยอาน ที่มีชาวจีนและชาวญี่ปุ่นมาทำการค้าขาย ชมบ้านเรือนเก่าแก่ที่ได้รับการบูรณะและดูแลอย่างดี |
|
นำท่านเดินชม สะพานญี่ปุ่น (Japanese Covered Bridge) สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองฮอยอันที่ได้รับการก่อสร้างโดยชุมชนชาวญี่ปุ่น เมื่อ 400 กว่าปีที่แล้ว ในช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งทอดเชื่อมเขตกามโฝกับมิงห์เฮืองเข้าไว้ด้วยกัน รูปทรงโค้งของสะพาน หลังคามุงกระเบื้องสีเขียวและเหลืองเป็นคลื่น ตรงกลางของสะพานมีเจดีย์ทรงจัตุรัส และก่อนเดินข้ามสะพานด้านซ้ายมือจะมีรูปปั้นสุนัขกำลังนั่ง เมื่อข้ามไปจะเจอลิงอีกตัวหนึ่ง นับเป็นสิ่งที่ช่างสมัยก่อนแสดงให้เห็นถึงระยะเวลาในการก่อสร้างสะพานแห่งนี้ เมื่อข้ามสะพานมายังอีกฟากของเมือง จะเห็นบ้านเรือนเก่าสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ตลอดจนร้านสไตล์อาร์แกลอรี่ริมถนนคนเดินสองฝากฝั่งถนนให้ได้เลือกซื้อเลือกชม |
|
ชม บ้านเลขที่ 101 หรือ บ้านตันกี (Tan Ky) บ้านหลังนี้มีอายุกว่า 200 รูปแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่าง 3 วัฒนธรรม คือ จีน ญี่ปุ่น และเวียดนาม สร้างโดยนายตันกี พ่อค้าที่ติดต่อค้าขายกับสเปนและดัตช์ ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันตกทอดมาสู่ทายาทรุ่นที่ 7 เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เจ้าของบ้านสะสมของเก่าๆไว้มากมาย ทั้งโต๊ะมุกแบบจีน เครื่องสังคโลก รูปปั้น แจกัน เหรียญโบราณต่างๆ ตัวบ้านทอดยาวไปเกือบจรดแม่น้ำทูโบน เป็นสาเหตุให้บ้านนี้ถูกน้ำท่วมทุกปี เวลาน้ำทะเลหนุนสูงกว่าระดับแม่น้ำ |
|
จากนั้น นำท่านเดินชม สมาคมฝูเจี้ยน (Fujian Assembly Hall) สถาปัตยกรรมจีนที่ถูกใช้เป็นสมาคมชาวจีนที่ใหญ่ที่สุดในฮอยอัน สมาคมฝูเจี้ยนหรือ “ฟุกเกี๋ยน” (Phouc Kien Assembly Hall) สร้างเมื่อปี 1960 เพื่อใช้เป็นศูนย์รวมชาวจีนที่อพยพมาจากมณฑลฝูเจี้ยนของจีน โดยในเวลาต่อมาได้มีการสร้างเสริมในส่วนของวัดเข้าไปเพื่ออุทิศแด่เจ้าแม่เทียนเห่า ผู้ทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองชาวเรือ ซึ่งมีการค้นพบรูปปั้นของพระนางบนชายหาดฮอยอันเมื่อปี 1697 |
|
นำท่านสู่ หมู่บ้านกั๊มทาน (Cam Thanh Water Coconut Village) หมู่บ้านเล็กๆในเมืองฮอยอัน ตั้งอยู่ในสวนมะพร้าวริมแม่น้ำ ในอดีตช่วงสงคราม ที่นี่เป็นที่พักอาศัยของเหล่าทหาร อาชีพหลักของคนที่นี่ คือ อาชีพประมง หมู่บ้านแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการล่องเรือกระด้ง พิเศษ! ให้ท่านได้สนุกสนานกับการนั่งเรือกระด้ง (Cam Thanh Water Coconut Village) เรือที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไม่เหมือนใครเป็นเรือไม้ไผ่สาน เหมือนเป็นฝาชี แล้วเอาน้ำมันสนเคลือบอีกทีกันน้ำเข้า ชาวเวียดนามใช้ในการสัญจร ระหว่างการล่องเรือออกไปเรื่อยๆ มีคนพายให้หนึ่งคนสัมผัสชีวิตปากแม่น้ำ ท่านจะได้ชมวัฒนธรรมอันสวยงาม ชาวบ้านจะขับร้องเพลงพื้นเมือง ผู้ชายกับผู้หญิงจะหยอกล้อกันไปมา และนำไม้พายเรือมาเคาะกันเป็นจังหวะดนตรีสนุกสนาน |
ค่ำ |
บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร |
|
นำท่านเข้าสู่ที่พักโรงแรม Thanh Binh Riverside Hotel (4*) หรือเทียบเท่า |
เช้า |
บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารโรงแรม |
|
นำท่านเดินทางกลับสู่ เมืองดานัง (Da Nang) เมืองที่ได้ชื่อว่า ไร้ขอทาน เพราะชาวเมืองส่วนใหญ่ประกอบอาชีพค้าขาย ได้รับการพัฒนาเพื่อรองรับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ มีภูมิทัศน์อันงดงามโดยเฉพาะชายทะเล ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเที่ยวทะเลคือเดือนพฤษภาคมถึงสิงหาคม นอกจากนี้ ยังมีหมู่บ้านชาวประมงและไร่นาเขียวขจี มีผู้กล่าวว่า “ถนนที่สวยที่สุดของเวียดนามนั้นอยู่ที่ดานัง” นี้เอง |
|
|
|
vนำท่านสู่ ตลาดหาน (Han Market) คือตลาดสดของเมืองดานัง ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหาน (Han River) ไม่ไกลจากสะพานข้ามแม่น้ำหาน ด้านหน้าตลาดมีปฏิมากรรมริมแม่น้ำหานเป็นรูปปั้นหญิงสวยงาม ส่วนในตลาดหานเป็นตลาดสดทั่วไป เป็นสถานที่รวบรวมสินค้า อาหารพื้นเมือง และของฝากจากเวียดนาม มีให้เลือกครบทุกสิ่งอย่าง รวมถึงปลาทะเลสดๆ และอาหารทะเล เพราะเมืองดานัง คือ เมืองติดทะเล |
กลางวัน |
อิสระอาหารกลางวัน เพื่อให้ท่านได้เลือกซื้อสินค้า อาหารพื้นเมือง และ ของฝากจากเวียดนามอย่างเพลิดเพลิน |
|
สมควรแก่เวลา นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติดานัง |
18.50 น. |
เหินฟ้ากลับสู่ กรุงเทพมหานคร โดยสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 369 (ไม่รวมค่าอาหารและค่าเครื่องดื่มบนเครื่อง) |
20.30 น. |
ตามเวลาท้องถิ่น เดินทางถึง ท่าอากาศยานดอนเมือง โดยสวัสดิภาพ |
**ปรับราคา 26 พ.ย. 62 ราคาใหม่ สำหรับชำระเป็นเงินสดหรือ เงินโอนเท่านั้น
ปรับลดราคาขายพิเศษ!!......เดิมราคา 22,900.- จ่ายแค่ 19,900.-
อัตราค่าบริการ |
ราคาขาย |
|
ผู้ใหญ่พักห้องละ 2 ท่าน ราคาท่านละ |
|
19,900 บาท |
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี พักกับผู้ใหญ่ 1 ท่าน ราคาท่านละ |
|
19,900 บาท |
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี พักกับผู้ใหญ่ 2 ท่านมีเตียงเสริม ราคาท่านละ |
|
19,900 บาท |
เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี พักกับ ผู้ใหญ่ 2 ท่าน ไม่มีเตียงเสริม ราคาท่านละ |
|
18,900 บาท |
พักห้องเดี่ยว เพิ่มท่านละ |
|
3,900 บาท |
สำหรับโปรแกรมทัวร์
อัตราค่าบริการนี้รวม
- ค่ายานพาหนะ ตามที่ระบุในรายการ
+ สำหรับโปรแกรมที่เดินทางโดยเครื่องบิน : ค่าตั๋วโดยสารเครื่องบินไป-กลับ ชั้นประหยัดพร้อมค่าภาษีสนามบินทุกแห่งตามรายการทัวร์ข้างต้น (กรณีท่านมีความประสงค์จะต้องการปรับเปลี่ยนระดับชั้นที่นั่ง จากชั้นประหยัดเป็นชั้นธุรกิจ โดยใช้คะแนนจากบัตรสะสมไมล์ จะต้องดำเนินการที่เคาน์เตอร์สนามบิน ณ วันเดินทาง เท่านั้น)
+ สำหรับโปรแกรมที่เดินทางโดยรถ : ค่ารถบัสปรับอากาศ / รถตู้ / พาหนะท้องถิ่น ตามที่ระบุในรายการ
- ค่าที่พักห้องละ 2 ท่าน ตามโรงแรมที่ระบุไว้ในรายการ หรือ ระดับเทียบเท่า
- ค่าอาหาร ค่าเข้าชม และ ค่ายานพาหนะทุกชนิด ตามที่ระบุไว้ในรายการทัวร์ข้างต้น
- ค่าใช้จ่ายของมัคคุเทศก์ และเจ้าหน้าที่บริษัท ฯ ที่คอยอำนวยความสะดวกทุกท่านตลอดการเดินทาง
- ค่าน้ำหนักสัมภาระท่านละไม่เกิน 20 กิโลกรัม และ ค่าประกันวินาศภัยเครื่องบินตามเงื่อนไขของแต่ละสายการบินที่มีการเรียกเก็บ (สำหรับโปรแกรมที่เดินทางโดยเครื่องบิน)
- ค่าประกันอุบัติเหตุคุ้มครองในระหว่างการเดินทาง คุ้มครองในวงเงินท่านละ 1,000,000 บาท(หากอายุเกิน 70 ปีขึ้นไป ค่าประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง 50%) ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดอุบัติเหตุวงเงินท่านละ 200,000 บาทตามเงื่อนไขของกรมธรรม์
อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม
- ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และเอกสารต่างด้าวต่างๆ
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น ค่าอาหาร - เครื่องดื่ม นอกเหนือจากรายการ ค่าซักรีดค่าโทรศัพท์ เป็นต้น
- ค่าภาษีทุกรายการคิดจากยอดบริการ, ค่าภาษีเดินทาง(ถ้ามีการเรียกเก็บ)
- ค่าภาษีน้ำมัน ที่สายการบินเรียกเก็บเพิ่มภายหลังจากทางบริษัทฯได้ออกตั๋วเครื่องบิน
- ค่า Vat7% และ ค่าภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%
เงื่อนไขการชำระเงิน :
1. สำหรับการจองกรุณาชำระมัดจำ ท่านละ 10,000.- บาท พร้อมสำเนาหนังสือเดินทาง (สำหรับโปรแกรมที่เดินทางโดยเครื่องบิน)
สำหรับการจองกรุณาชำระมัดจำ ท่านละ 3,000.- บาท พร้อมสำเนาบัตรประชาชน (สำหรับโปรแกรมที่เดินทางโดยรถ)
2. กรุณาชำระค่าทัวร์ส่วนที่เหลือ 20 วันก่อนออกเดินทาง
การยกเลิกและคืนค่าทัวร์:
1. การยกเลิกการเดินทางก่อน 30 วัน ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการยึดมัดจำท่านละ 5,000 บาท
2. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 15-29 วัน ขอเก็บเงินมัดจำทั้งหมด
3. ยกเลิกก่อนการเดินทาง 7-14 วัน ขอเก็บค่าใช้จ่าย 50% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด
4. ยกเลิกก่อนการเดินทางน้อยกว่า 7 วัน ขอเก็บค่าใช้จ่าย 100% ของราคาค่าทัวร์ทั้งหมด
5. ยกเว้นกรุ๊ปที่ออกเดินทางช่วงเทศกาลวันหยุด เช่น ปีใหม่, สงกรานต์ เป็นต้น บางสายการบินมีการการันตีมัดจำที่นั่งกับสายการบินและค่ามัดจำที่พัก รวมถึงเที่ยวบินพิเศษ เช่น CHARTER FLIGHTจะไม่มีการคืนเงินมัดจำหรือ ค่าทัวร์ทั้งหมด ไม่ว่ายกเลิกด้วยกรณีใดๆ
6. กรณีที่กองตรวจคนเข้าเมืองทั้งกรุงเทพฯ และในต่างประเทศ ปฏิเสธมิให้เดินทางออก หรือ เข้าประเทศที่ระบุในรายการเดินทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ที่จะไม่คืนค่าทัวร์ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
7. เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ถ้าท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกร้องค่าบริการและเงินมัดจำคืน ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น
หมายเหตุ :
1. การเดินทางในแต่ละครั้งจะต้องมีผู้โดยสารจำนวน 15 ท่านขึ้นไป ถ้าผู้โดยสารไม่ครบจำนวน ดังกล่าวทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงราคาหรือเลื่อนการเดินทางหรือยกเลิกการเดินทาง
2. ในกรณีที่ลูกค้าต้องออกตั๋วโดยสารภายในประเทศ กรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ก่อนทุกครั้ง มิฉะนั้นทางบริษัทจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
3. ขอสงวนสิทธิ์การเก็บค่าน้ำมันและภาษีสนามบินทุกแห่งเพิ่ม หากสายการบินมีการปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง
4. บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนเที่ยวบิน โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอันเนื่องจากสาเหตุต่างๆ
5. รายการและราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากสภาวะอากาศ, การเมือง, สายการบิน และอัตราแลกเปลี่ยนโดยทางบริษัทฯ จะคำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของท่านเป็นสำคัญที่สุด
6. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อการออกนอกประเทศ / ห้ามเข้าประเทศ/ การนำสิ่งของผิดกฎหมาย /เอกสารการเดินทางไม่ถูกต้อง และความประพฤติส่อไปในทางเสื่อมเสีย รวมถึงกรณีความล่าช้าจากสายการบิน, ภัยธรรมชาติ, การยกเลิกเที่ยวบิน, การนัดหยุดงาน, การประท้วง, การก่อจลาจล ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของบริษัทฯ
7. บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น หากเกิดสิ่งของสูญหาย อันเนื่องเกิดจากความประมาทของท่าน, เกิดจากการโจรกรรม และ อุบัติเหตุจากความประมาทของนักท่องเที่ยวเอง
8. ตั๋วเครื่องบินเป็นตั๋วกรุ๊ปราคาพิเศษ หากท่านไม่เดินทางไปกลับพร้อมคณะไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม ไม่สามารถนำมาเลื่อนวันเดินทาง หรือคืนเงินได้
9. เมื่อท่านตกลงชำระเงินมัดจำหรือค่าทัวร์ทั้งหมดกับทางบริษัทฯ แล้ว ทางบริษัทฯ จะถือว่าท่านได้ยอมรับเงื่อนไขข้อตกลงต่างๆ ทั้งหมด
สำหรับแพคเกจทัวร์
เงื่อนไขเป็นไปตามที่ระบุในแพคเกจทัวร์นั้นๆ
บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด N.S. Travel & Tours Co.,Ltd
133/19-20 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
โทรศัพท์ : 0 2625 1555
โทรสาร : 0 2246 5658
อีเมล์ : info@noomsaotours.co.th
เว็บไซต์ : www.noomsaotours.co.th
(เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัทหนุ่มสาวทัวร์) ติดต่อเรา