มิลาน เมืองล้ำค่าแห่งอดีตและอนาคต

มิลาน เมืองล้ำค่าแห่งอดีตและอนาคต จากประวัติศาสตร์สุดอลังการของมหาวิหารแห่งมิลาน ถึงแหล่งกำเนิดแฟชั่นชื่อดังของโลก

มิลาน (Milan) หรือที่คนอิตาเลียนเรียกว่า “ มิลาโน่ (Milano)  เมืองหลักของแคว้นลอมบาร์เดียและเป็นเมืองสำคัญในภาคเหนือของประเทศอิตาลี ตั้งอยู่บริเวณที่ราบลอมบาร์ดี (Lombardy) 

เมืองมิลานมีชื่อเสียงในด้านแฟชั่นและศิลปะ ซึ่งมิลานถูกจัดให้เป็นเมืองแฟชั่นในลักษณะเดียวกับนิวยอร์ก ปารีสลอนดอน และโรม   นอกจากนั้นยังมีภาพวาดเฟรสโก้ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และโรงละครโอเปร่าอันลือชื่อ

          มหาวิหารประจำเมือง หรือ “ ดูโอโม (Duomo) ” ซึ่งจะมีอยู่เกือบทุกเมืองสำคัญของอิตาลี จุดศูนย์รวมของคนในเมือง ดูโอโม่ของมิลานนี้สร้างในสถาปัตยกรรมแบบโกธิก เป็นมหาวิหารที่ใหญ่เป็นอับดับสองรองจากมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงวาติกัน

          มหาวิหารแห่งนี้เริ่มสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1386 แต่มาแล้วเสร็จ 400 กว่าปีหลังจากนั้น คือในปี ค.ศ.1813 ด้านนอกเป็นยอดแหลม 135 ยอด จึงมีชื่อเล่นว่า “ มหาวิหารเม่น ” มีรูปสลักหินอ่อนจากยุคต่าง ๆ ประดับอยู่กว่าสามพันรูป

         ส่วนที่เห็นเด่นเป็นสง่าคือยอดที่สูงที่สุดประดับด้วยรูปสลักพระแม่มาเรียสูง 4 เมตร หุ้มด้วยทองคำทั้งองค์ มีชื่อเรียกว่า “ มาดอนนิน่า (Madonnina) ” 

ภายในมหาวิหารดูเรียบง่าย แต่โอ่อ่ากว้างขวาง  ด้านหน้ามหาวิหารจะเป็นลานกว้าง เรียกว่า “ ปิอาซซ่า เดล ดูโอโม (Piazza del Doumo) ” เป็นศูนย์กลาง เป็นแหล่งชุมนุมของผู้คนมาทุกยุคสมัย

ด้านข้างของจตุรัสหน้าดูโอโมทางทิศเหนือ จะเห็นทางเข้า “ กัลเลเรีย วิตโตรีโอ เอมานูเอล ” ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าที่หรูหราอลังการแห่งเมืองมิลาน  ภายในห้างเป็นโดมแก้ว มีห้างร้านต่าง ๆ มากมาย ศูนย์ การค้านี้ตั้งขึ้นตามชื่อของกษัตริย์ผู้รวบรวมประเทศอิตาลีเป็นหนึ่งเดียว ตกแต่งอาคารด้วยหลังคาที่เป็นกระจก มีโดมอยู่ตรงกลางตกแต่งได้อย่างมีสไตล์ และน่าเดินมาก

สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในห้างแห่งนี้คือ การค้นหาสัญลักษณ์รูปกระทิงและเอาส้นเท้าไปหมุ่น 360 องศาตรงนั้น  เป็นความเชื่อที่ว่าจะช่วยเสริมสร้างโชคลาภและจะได้กลับมาเที่ยวที่อิตาลีอีกครั้งหนึ่ง

ด้านหน้าลา สกาล่า เป็นลาน เรียกว่า “ ปิอาซซ่า เดลลา สกาลา ” มีรูปปั้นของศิลปินที่มีชื่อเสียงโด่งดังคนหนึ่งของโลก คือ “ ลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ”

นอกจากนี้มิลานยังเป็นที่รู้จักจากประเพณีคริสต์มาสที่เรียกว่า ปาเนตโตเน (Panettone) อุตสาหกรรม ผ้าไหม และแหล่งผลิตรถยนต์ อัลฟา โรมีโอ รวมไปถึงสโมสรฟุตบอลอินเตอร์มิลานและสโมสรฟุตบอลเอซีมิลาน