ตารางการเดินทาง

•   วันแรก : กรุงเทพฯ – เชียงใหม่ - โครงการหลวงขุนแปะ -อุทยานแห่งชาติออบหลวง - สวนสนบ่อแก้ว - อ.แม่สะเรียง

   

  03.30 น.	คณะพร้อมกันที่ สนามบินดอนเมือง   เคาเตอร์สายการบินนกแอร์ (กรุณาเตรียมบัตรประชาชนไปแสดงด้วย)  ทีมงานคอยให้การต้อนรับและบริการ
  05.30 น.	ออกเดินทางสู่ จ.เชียงใหม่ โดย  สายการบินนกแอร์  เที่ยวบินที่ DD 120
  06.40 น.	ถึง ท่าอากาศยาน  จ.เชียงใหม่ เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้ปรับอากาศ นำท่านเดินทางสู่ อ.จอมทอง พร้อมบริการอาหารว่าง (1) บนรถตู้
  	นำท่านเดินทางเข้าสู่ โครงการหลวงขุนแปะ จังหวัดเชียงใหม่ ชม ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ บานสะพรั่งทั่วทั้งหุบเขา ชมวิวหลักล้านที่ไม่ต้องบินไปไกลถึงต่างประเทศ  และยังเป็นฉากในละคร คือเธอ ทางช่อง 3  ที่มี มาริโอ้ เมาเร้อ และ ญาญ่า อุรัสยา แสดงนำ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ ก่อตั้งเมื่อปีพ.ศ. 2527 ตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อช่วยเหลือชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยงและม้ง ให้ได้รับการดูแลในด้านสาธารณูปโภคที่เพียงพอ ลดปัญหาการบุกรุกป่าทำไร่เลื่อนลอย และขจัดปัญหาการปลูกฝิ่น โดยสร้างอาชีพทดแทน ด้วยการปลูกพืช ผัก ผลไม้ และไม้ดอกไม้ประดับ เพื่อให้ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ทุ่งดอกไฮเดรนเยีย เป็นหนึ่งในแปลงปลูกพืชทดลองของโครงการหลวงขุนแปะ กำลังบานสะพรั่งเต็มทุ่ง ชูช่อดอกัใหญ่สีฟ้าอมม่วง อวดความสวยงามแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งจะเริ่มบานตั้งแต่เดือนตุลาคม และบานเต็มที่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์
  12.00 น.	บริการอาหารกลางวัน(2)   ณ ร้านอาหาร
  บ่าย	นำท่านสัมผัสตำนานแห่งความรัก ณ ออบหลวง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติออบหลวง  เป็นช่องแคบเขาขาดที่มีหน้าผาหิน ขนาบลำน้ำ ทำให้เกิดหุบผาลึก ธรรมชาติได้สร้างสรรความน่าพิศวงให้กับแผ่นดินส่วนนี้อย่างมหัศจรรย์ คำว่า “อ๊อบ” หรือ “ออบ” เป็นภาษาท้องถิ่นหมายถึงช่องแคบ “หลวง” หมายถึง ใหญ่  ออบหลวง คือชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกช่องแคบหิน ขนาดยักษ์ที่มีลำน้ำแม่แจ่มบีบตัวแทรกผ่านไป
  	จากนั้นเดินทางสู่ สวนสนบ่อแก้ว จุดแวะหลักที่ต้องก้าวจากรถเพื่อแวะพักจากอาการมึนโค้ง ผ่อนคลายถ่ายภาพตัวเองกับป่าสนที่เรียงราย เป็นทิวแถวทอดยาวสุดในเนื้อที่ทั้งหมด 2,072 ไร่ มีสภาพอากาศชื้นและเย็นตลอดปี เมื่อเดินทางผ่านมายังเส้นทางนี้ จะสังเกตเห็นต้นสนเป็นจำนวนมากแต่ที่โดดเด่นและเป็นที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวก็คงจะเป็นแนวสนหน้าถนนทางเข้าฝั่งซ้ายมือ ที่มีการปลูกเรียงไว้เป็นแนว อย่างสวยงามทั้งสองข้างทาง มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจแวะมาถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกจำนวนมากความสวยงามของที่นี่ ได้รับฉายาว่า เกาะนามิเมืองไทย ที่ไม่ต้องไปไกลถึงเกาหลีอีกด้วย
  	จากนั้นนำท่านเข้าที่สู่ที่พัก  ณ  อ.แม่สะเรียง   พักผ่อนตามอัธยาศัย
  19.00 น.	บริการอาหารค่ำ(3)  ณ ร้านอาหาร จากนั้นเชิญท่านพักผ่อนกับเมืองที่เงียบสงบเคล้าความหนาวได้ตามอัธยาศัย

•   วันที่ 2 : ตักบาตรตอนเช้า-วัดจอมแจ้ง -วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล -วัดจองคำและวัดจองกลาง- พระธาตุดอยกองมู-ถนนคนเดินเมืองแม่ฮ่องสอน

  06.00 น.	ตื่นแต่เข้านำท่าน ตักบาตรตอนเช้า เพื่อเป็นศิริมงคล ท่ามกลางกลิ่นอายความหนาวเย็น และสายหมอกสวยงามยามเช้า
  07.00 น.	บริการอาหารเช้า(4) ณ ห้องอาหารภายในที่พัก
  08.00 น.	นำท่านเดินทางสู่ วัดจอมแจ้ง (วัดพระธาตุจอมแจ้ง) เป็นศิลปะล้านนา ส่วนด้านสถาปัตยกรรมมีรูปแบบผสมผสานมีลวดลายสวยงาม เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองชาวแม่สะเรียง จุดเด่นของวัดพระธาตุจอมแจ้งคือความสวยงามของพระธาตุจอมแจ้ง และทิวทัศน์อันสวยงามของอำเภอแม่สะเรียง  พระธาตุจอมแจ้ง ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้แก่ พระเกศาธาตุ พระธาตุจอมแจ้งสร้างโดยพระฤๅษีสี่พี่น้อง ประมาณปี พ.ศ. 1000 กว่า เพื่อที่จะให้คนชาวเมืองยวมได้มากราบไหว้สักการบูชา เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองยวม คอยปกป้องชาวเมืองยวม
  	นำท่านเดินทางสู่ วนอุทยานถ้ำแก้วโกมล  เดิมเรียกชื่อถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย ความแวววาวของผลิกแร่แคลไซต์ สีขาวใสที่เคลือบ ฉาบ ผนังภายในถ้ำแก้วโกมลหรือที่เรียกกันว่าถ้ำน้ำแข็งสวยงามยิ่งนัก ซึ่งพบเพียง 3แห่งในโลก (กรุณาอย่าสัมผัสผนังถ้ำหรือผลึกแคลไซด์  เพื่อลูกหลานจะได้มีโอกาสได้ชื่นชมกับความงานในยุคต่อๆไป)
  	จากนั้นเดินทางต่อสู่ จ.แม่ฮ่องสอน
  12.00 น.	บริการอาหารกลางวัน(5) ณ ร้านอาหาร
  บ่าย	จากนั้นนำท่านชม วัดจองคำและวัดจองกลาง เปรียบเสมือนวัดแฝด ด้วยตั้งอยู่ในกำแพงเดียวกัน เมื่อมองจากด้านหน้า วัดจองคำ จะอยู่ด้านซ้ายมือ ส่วนวัดจองกลางจะอยู่ทาง ขวามือ วัดจองคำและวัดจองกลางตั้งอยู่กลางเมืองแม่ฮ่องสอน และ เป็นเสมือนสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเมืองไทใหญ่แห่งนี้ เพราะนอกจากความงดงาม ทางศิลปะแล้ว วัดทั้งสอง ยังเป็น ศูนย์กลางของกิจกรรมทางวัฒนธรรม,ประเพณีของชาวแม่ฮ่องสอน และใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีตามประเพณีต่าง ๆ ในรอบปีอีกด้วย
  	นำท่านเดินทางสู่ วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นวัดศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ตั้งอยู่บนดอยกองมู ประกอยด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็นที่บรรจุพระธาตุของ พระโมคคัลลานะ เถระ ซึ่งนำมา จากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอน คนแรก นอกจากพระธาตุที่ศักดิ์สิทธิ์วัดพระธาตุดอยกองมูนี้สามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อย่างชัดเจน และสวยงามมากอีกด้วย
  17.00 น.	จากนั้นนำท่านเดินทางเข้าสุ่ที่พัก ณ จ.แม่ฮ่องสอน
  18.30 น.	บริการอาหารค่ำ(6) ณ ร้านอาหาร
  	จากนั้นเชิญท่าน ถนนคนเดินเมืองแม่ฮ่องสอน ถือว่าเป็นถนนคนเดินที่มีบรรยากาศที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ด้วยความสวยงามของวัดจองคำ วัดจองกลาง ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมแบบไทใหญ่ และมีการจำหน่ายสินค้าต่างๆ มากมาย เช่น ของฝาก ของที่ระลึก เสื้อผ้า สินค้า OTOP ขึ้นชื่อของแม่ฮ่องสอน ในราคาประหยัดและไม่แพง นอกจากนี้ ยังมีโซนจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม ให้นั่งรับประทานพร้อมชื่นชมบรรยากาศโดยรอบของสวนสาธารณะหนองจองคำและแสงสีในยามค่ำคืนใจกลางเมืองแม่ฮ่องสอน

•   วันที่ 3 : ล่องน้ำปายชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว-วัดหัวเวียง-สะพานซูตองเป้-บ้านรักไทย

   

  07.00 น.	บริการอาหารเช้า(7) ณ ห้องอาหารภายในที่พัก
  08.30 น.	เดินทางสู่ ท่าเรือ  ล่องน้ำปายชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือไปตามลำน้ำ จะผ่านระลอกน้ำที่ลดระดับลดหลั่นกันไป คล้ายธารน้ำตกนับเป็นทัศนียภาพ ที่งดงามแปลกตา และสัมผัสวิถีชีวิต ของชาวปาดอง (กะเหรี่ยงคอยาว) ที่ท่านสามารถเก็บภาพ และเลือกซื้อของที่ระลึก สมควรแก่เวลา นำท่านเข้าสู่ เมืองแม่ฮ่องสอนอีกครั้ง
  12.00 น.	บริการอาหารกลางวัน(8) ณ ร้านอาหาร
  บ่าย	นำท่านนมัสการ  พระเจ้าพาราละแข่ง หรือ พระมหามุนี  ณ วัดหัวเวียง เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดแม่ฮ่องสอน  พระเจ้าพลาละแข่ง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยทรงเครื่อง ฝีมือช่างชาวเมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า องค์พระหล่อจากทองเหลือง แต่พระพักตร์มีส่วนผสมของทองคำอยู่จำนวนหนึ่ง ทำให้พระพักตร์เงาแวววาวอยู่เสมอ ชาวแม่ฮ่องสอนถือว่าเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองพระเจ้าพลาละแข่งนี้จำลองจากพระมหามุนีในเมืองมัณฑะเลย์ ซึ่งชาวพม่านับถือกันมาก เนื่องจากเชื่อว่า พระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทานลมหายใจให้แก่พระมหามุนี การหล่อพระเจ้าพลาละแข่ง ช่างได้หล่อเป็นท่อนๆ จำนวน 9 ท่อน    ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องประจำเมืองที่งดงามมาก
  	ตามรอย เขาเล่าว่า...มา จ.แม่ฮ่องสอนแล้ว อย่าลืมไป “สะพานอธิษฐานสำเร็จ” สะพานซูตองเป้ โดยให้เดินข้ามแล้วไปอธิษฐาน ณ วัดที่ปลายสะพาน…ความสำเร็จในสิ่งที่หวัง ก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม นำท่านสัมผัส กับ 1 ในโครงการ เขาเล่าว่า ที่ สะพานซูตองเป้ เป็นภาษาไทยใหญ่ แปลว่า อธิษฐานสำเร็จ เป็นสะพานไม้ไผ่ กว้าง2เมตร ยาวประมาณ 600 เมตร และความน่าสนใจของสะพานแห่งนี้ไม่ได้อยู่แค่เพียงเป็นเส้นทางสัญจรของพระสงฆ์ แต่เป็นสะพานที่สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของพระ เณร และชาวบ้าน โดยไม่ใช้งบประมาณของทางราชการ วัสดุที่ใช้ก็หาได้ในท้องถิ่น เสาจากไม้เก่าของชาวบ้านปูพื้นด้วยไม้ไผ่ ทอดยาวจากสวนธรรมภูสมะถึงหมู่บ้านกุงไม้สัก ผ่านลำน้ำแม่สะงา ผ่านทุ่งนาของชาวบ้าน เพื่อให้พระภิกษุสามเณรออกรับบิณฑบาต จึงได้ชื่อว่าเป็น “สะพานไม้แห่งศรัทธา”
  	สมควรแก่เวลา นำทุกท่านเดินทางขึ้นสู่  บ้านรักไทย  เป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนานโอบล้อมไปด้วยทิวเขา แมกไม้ที่อุดมสมบูรณ์ อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล กว่า 1,776 เมตร ทำให้พื้นที่ เหมาะสมอย่างยิ่งกับการปลูกชาพันธุ์ดี และพืชเมืองหนาว