ตารางการเดินทาง

•   วันแรก : กรุงเทพฯ – เชียงราย – วัดพระแก้ว - วัดพระธาตุดอยตุง - พระตำหนักดอยตุง – สวนแม่ฟ้าหลวง – ถ้ำหลวง – วัดพระธาตุดอยเวา – สกายวอล์คดอยเวา – ตลาดแม่สาย - เชียงแสน

   

  04.00 น.	คณะเดินทางพร้อมกันที่ ท่าอากาศยานดอนเมือง  อาคาร 2 เคาท์เตอร์ สายการบินนกแอร์  (กรุณาเตรียมบัตรประชาชนไปแสดงด้วย) มีเจ้าหน้าที่คอยต้อนรับและให้บริการ
  06.10 น.	ออกเดินทางสู่ จ.เชียงราย โดย  สายการบินนกแอร์  เที่ยวบินที่   DD 100
  07.25 น.	เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เปลี่ยนการเดินทางเป็นรถตู้ปรับอากาศ
  	นำท่านเดินทางสู่ วัดพระแก้ว ซึ่งตั่งอยู่ใจกลางเมืองเชียงราย วัดนี้ได้ค้นพบ พระแก้วมรกต หรือพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ที่ประดิษฐานอยู่ ณ วัดศรีรัตนศาสดาราม(วัดพระแก้ว) กรุงเทพฯ ในปัจจุบัน ตามประวัติเล่าว่า เมื่อปี พ.ศ. 1897 ในสมัย พระเจ้า สามฝั่งแกน เป็นเจ้าเมือง ครองเชียงใหม่นั้น ฟ้าได้ผ่า เจดีย์ร้างองค์หนึ่ง และได้พบพระพุทธรูปลงรักปิดทอง อยู่ภายในเจดีย์ ต่อมาจึงได้พบว่าเป็นพระพุทธรูปสีเขียวที่สร้างด้วยหยก ซึ่งก็คือ พระแก้วมรกตนั่นเอง ปัจจุบัน วัดพระแก้ว เชียงราย เป็นที่ประดิษฐาน พระหยก ซึ่งสร้างขึ้นใหม่
  	จากนั้นนำท่านสู่ วัดพระมหาชินธาตุเจ้า (ดอยตุง) หรือเรียกโดยทั่วไปว่า วัดพระธาตุดอยตุง ตั้งอยู่บริเวณส่วนที่เรียกว่า หน้าอกของดอยนางนอน ต.ห้วยไคร้ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นำท่านนมัสการ พระธาตุดอยตุง พระธาตุที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย ซึ่งมีความเก่าแก่ สวยงาม เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระรากขวัญเบื้องซ้าย หรือ กระดูกไหปลาร้า ของพระพุทธเจ้า ซึ่งนำมาจากประเทศอินเดีย และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีกุน ตามคติความเชื่อของชาวล้านนา
  	นำชม พระตำหนักดอยตุง ถือว่าเป็นบ้านหลังแรกของสมเด็จย่าสร้างขึ้นโดยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ที่เน้นความเรียบง่ายและการใช้ประโยชน์มีลักษณะสถาปัตยกรรมล้านนาผสมผสาน กับรูปแบบพื้นเมืองสวิตเซอร์แลนด์บริเวณด้านหลังตำหนักมีระเบียงยื่นออกไปเมื่อยืนที่ระเบียงจะเห็นทัศนียภาพของดอยตุงที่สวยงามของ สวนแม่ฟ้าหลวง ตั้งอยู่ด้านหน้าตำหนักดอยตุงมีเนื้อที่ ประมาณ 10 ไร่เป็นสวนไม้ดอกไม้ประดับนานาพรรณ ดอกไม้เมืองหนาว อาทิ เช่น ดอกซัลเวีย   พิทูเนีย  บีโกเนีย  กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่างๆ นอกจากนี้ยังมีไม้ยืนต้นและต้นไม้เลื้อยอีกมากมาย
  12.00 น.	บริการอาหารกลางวัน (1) ณ ร้านอาหาร
  บ่าย	นำท่านสู่ วัดพระธาตุดอยเวา ตั้งอยู่บนยอดดอยเวา เป็นวัดที่เป็นที่ประดิษฐานพระธาตุดอยเวา สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ 2 ฝั่งทั้งประเทศไทยและเมียนมาร์ วัดแห่งนี้ เป็นวัดที่มีสีม่วงสวยตระการตา มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกราบไหว้เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีรูปปั้นแมงเวาตัวใหญ่ ในภาษาเหนือแปลว่า “แมงป่องช้าง” ที่เป็นลัญลักษณ์ประจำวัดอีกด้วย มาถึงแม่สายเชียงรายทั้งที พลาดไม่ได้เลยที่จะมาสักการะพระธาตุและชมวิวทั้ง 2 ฝั่งของไทยและเมียนมาร์
  	ต่อกันที่ แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของแม่สาย สกายวอล์คดอยเวา ที่มีความยาว 150 เมตร ถือว่ายาวที่สุดในประเทศไทย หรือที่เขาเรียกกันว่า “สกายวอล์คเหนือสุดในสยาม” เมื่อขึ้นมาแล้วสามารถมองเห็นวิวของประเทศเมียนมาร์ได้อย่างชัดเจนสวยงาม ทั้งวิวของชุมชนบ้านเรือน ถนน และธรรมชาติ นอกจากนั้นยังมีประดิษฐานพระแก้วมรกตจำลองตั้งอยู่กลางวงเวียนบนสกายวอล์ค สีเขียวมรกตเด่นเป็นสง่าเลยทีเดียว บอกเลยว่ามาแล้วต้องประทับใจอย่างแน่นอน
  	นำท่านสู่ ตลาดแม่สาย ตลาดชายแดน แหล่งช้อปปิ้งสุดฮิตของแม่สาย ตั้งอยู่ที่ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็นตลาดการค้าชายแดนที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก เพราะมีชื่อเสียงมานานมากหลายสิบปีด้วยกัน และด้วยความที่อยู่ติดชายแดน ก็เลยมีทั้งชาวเมียนมาร์และชนกลุ่มน้อยมาจับจ่ายซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคอยู่เสมอๆ
  18.00 น.	บริการอาหารค่ำ (2) ณ ร้านอาหาร
  19.00 น.	นำท่านเข้าสู่ที่พักใน อ.เชียงแสน จ.เชียงราย เชิญท่านพักผ่อนตามอัธยาศัย

•   วันที่ 2 : วัดพระธาตุผาเงา - ชมเมืองเก่าเชียงแสน - วัดเจดีย์หลวง – วัดป่าสัก - ไร่ชาวังพุดตาล – สุสานนายพลต้วน - พระบรมธาตุเจดีย์ศรีนครินทร์สถิตมหาสันติคีรี - ดอยแม่สลอง

  07.00 น.	ตื่นรับอรุณ บริการอาหารเช้า (3) ณ ห้องอาหารของที่พัก
  08.00 น.	นำท่านสู่ วัดพระธาตุผาเงา  อ.เชียงแสน ที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ คำว่าผาเงาก็คือ เงาของก้อนผา (ก้อนหิน) หินก้อนนี้มีลักษณะสูงใหญ่คล้ายรูปทรงเจดีย์และทำให้ร่มเงาได้ดีมาก ชาวบ้านจึงตั้งชื่อว่า “พระธาตุผาเงา”  ความจริงก่อนที่จะย้ายวัดมาที่นี่ เดิมมีชื่อว่า “วัดสบคำ”  ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำโขง ฝั่งน้ำได้พังทลายลง ทำให้บริเวณ ของวัดพัดพังลงใต้น้ำโขงเกือบหมดวัด คณะศรัทธาจึงได้ย้ายวัดไปอยู่ที่ใหม่บนเนินเขา ซึ่งไม่ไกลจากวัดเดิม
  	นำท่านสู่ วัดเจดีย์หลวง หรือ วัดพระธาตุเจดีย์หลวง เป็นวัดโบราณในอำเภอเชียงแสน สร้างโดยพระเจ้าแสนภู เป็นวัดที่สำคัญของหิรัญนครเงินยาง อาณาจักรล้านนา เจดีย์หลวงในชื่อของวัดนั้นเชื่อว่าได้ชื่อมาจาก "พระธาตุเจดีย์หลวง" พระเจดีย์องค์ใหญ่ที่สูง 88 เมตร มีฐานกว้าง 24 เมตร เป็นพระเจดีย์ทรงระฆังแบบล้านนาที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เชียงแสน ภายในวัดนอกจากพระเจดีย์หลวงแล้วยังมีพระวิหารและองค์เจดีย์ อีก 4 องค์ ซึ่งล้วนปรักหักพังอย่างมาก กรมศิลปากรได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติเมื่อ พ.ศ. 2478
  	นำท่านสู่ อีกวัดเก่าแก่ของ อ.เชียงแสน  วัดป่าสัก ถือได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของอาณาจักรล้านนา ในปีพ.ศ. 1838 เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ "โคปผกะธาตุ" (พระธาตุกระดูกตาตุ่มข้างขวาของพระพุทธเจ้า) และโปรดเกล้าฯ ให้ปลูกต้นสักจำนวน 300 ต้นทั่วบริเวณ จึงเป็นที่มาของชื่อวัดป่าสัก โบราณสถานที่สำคัญที่สุด คือ พระประธานทรงมณฑปยอดระฆัง ฐานกว้าง 8 เมตร สูง 12.5 เมตร ตกแต่งลวดลายปูนปั้นวิจิตรพิศดาร ฝีมือช่างชั้นครู  พระเจดีย์ทรงปราสาทแบบล้านนา 5 ยอดนี้ ยังคงอยู่ในสภาพที่นักโบราณคดีและนักประวัติศาสตร์ต่างเห็นค่อนข้างตรงกันว่า มีสภาพที่สมบูรณ์และสวยงามจนไม่มีสถาปัตยกรรมที่ไหนในแผ่นดินล้านนาจะงดงามเท่า
  12.00 น.	บริการอาหารกลางวัน (4) ณ ร้านอาหาร
  บ่าย	นำท่านแวะชม ไร่ชาวังพุดตาล ซึ่งดอยแม่สลอง เชียงราย นอกจากจะมีชื่อเสียงเป็นแหล่งปลูกชาและมีวิวสวย ที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งผลิตชาชั้นดีระดับโลก ที่ได้รางวัลระดับ Grand Gold Prize 2021 : Kiri Black Tea และ Gold Prize 2022 :