: NOOMSAOTOURS        02-625-1555

เหมืองในหมอก...อีต่อง ปิล๊อก จ๊อกกระดิ่น

ปลายเดือนกันยายน ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสเดินทางสู่ จ.กาญจนบุรี  เป็นช่วงที่ต้นไม้เขียวชะอุ่มไปทั่ว เพราะเป็นช่วงปลายของฤดูฝน อากาศไม่ร้อนมาก ครึ้มฟ้า ครึ้มฝนตลอดเส้นทาง  หลังจากผ่านการเดินทาง กว่า 5 ชม. และอีก 399 โค้ง เราก็มาถึง บ้านอีต่อง ที่ตั้งอยู่ใน ต.ปิล๊อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญนะจ๊ะบุรี ...แฮ่.. กาญจนบุรี  ดินแดนสุดท้าย ก่อนข้ามสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า 

     

บ้านอีต่อง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่เคยเป็นที่พักของชาวเหมือง เมื่อครั้งที่ การทำเหมืองแร่ รุ่งเรืองถึงขีดสุด ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง ร้านอาหาร ไปรษณีย์ หรือแม้กระทั่ง โรงหนัง แต่หลังจากที่หมดยุคเหมืองแร่ ก็ทำให้ หมู่บ้านแห่งนี้ กลายมาเป็นจุดหมายปลายทางที่ใครหลายคน อยากที่จะมาสัมผัสความเป็นธรรมชาติของหมู่บ้านแห่งนี้สักครั้ง  ด้วยความที่ เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนหุบเขา ทำให้ที่นี่มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในตอนกลางคืน (กลางวันไม่ต้องพูดถึงเนอะ เมืองไทยที่ไหนก็ร้อน 555)  และในตอนเช้า ก็ยังสัมผัสได้กับหมอกจาง ๆ ภายในหมู่บ้านได้ หากต้องการดูพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอกก็ยังสามารถดูได้หลายจุด รอบๆหมู่บ้าน 

   

เรามาดูกันว่า หมู่บ้านเล็กๆแห่งนี้ มีอะไรให้เที่ยว ให้ดู ให้กิน ให้เล่น กันบ้าง เริ่มกันที่ ถนนเส้นหลัก ที่มีเพียงเส้นเดียว ของหมู่บ้าน ที่ปัจจุบัน รายล้อมไปด้วย ร้านอาหาร โฮมสเตย์ ร้านขายของที่ระลึก และ ตลาด ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นรายได้หลักของหมู่บ้านแห่งนี้ในปัจจุบัน  ส่วนไฮไลท์อื่นๆของหมู่บ้าน  ได้แก่

   

เมื่อเราเข้ามาถึงบ้านอีต่อง ก็จะเจอกับ ..... ที่จอดรถ  ^^ เนื่องด้วยปริมาณนักท่องเที่ยว ที่มีมากขึ้น ทางหมู่บ้านก็ได้จัดเตรียมที่จอดรถไว้บริการกันอย่งเต็มที่ ซึ่งด้านข้างที่จอดรถนั่นเอง เราก็จะได้เจอกับ "บึง" กลางหมู่บ้าน อันเป็นไฮไลท์หนึ่งของที่นี่ บรรยากาศสุดโรแมนติก ไอหมอกจางๆ  ืกับภาพสะท้อนในบึง โรแมนติกเสียนี่กระไร   จะเดินเล่นรอบบึง เก็บภาพสวยๆ ก่อนแล้วค่อยเข้าที่พัก หรือจะ เข้าที่พักก่อนค่อยมาเดินเล่นเก็บบรรยากาศ ก็แล้วแต่ชอบนะจ๊ะ

    

        

หลังจากชื่นชมบึงกันเสร็จแล้ว เราก็จะเดินเข้าหมู่บ้านกัน ซึ่งทางเข้า ก็จะมี ป้ายตลาดอีต่อง  ที่มีทั้งภาษาไทย และ ภาษาพม่า  และ อีกไฮไลท์ก็คือ สะพานสำหรับแขวนแผ่นป้ายไม้ ให้เราเขียน หรือ จารึก ความรู้สึกต่างๆ หรือ รายชื่อบุคคลที่มาด้วย หรือ จะประกาศว่าเราเป็นใครมาจากไหน ก็สามารถทำได้ ตรงนี้เลย 

     

     

อีกหนึ่งสถานที่ ที่มาถึงบ้านอีต่องแล้ว ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ เหมืองปิล๊อก ที่ตั้งอยู่ข้างๆ บ้านอีต่องนะแหละ  ถ้าเดินจากที่เราแขวนป้ายไม้ ไปอีกฟากนึงของบึง ก็ถึงแล้ว ใกล้นิดเดียวเอง ... ในเหมืองก็จะมี พวกเครื่องมือเก่าๆที่ใช้สำหรับการทำเหมือง ไว้ให้ได้ดู และถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก  รวมไปถึง มีน้ำตก และบึงเล็ก ไว้สำหรับนั่งดูปลาแหวกว่าย ให้เราได้นั่งปล่อยตัวปล่อยใจไปกับธรรมชาติโดยรอบ แนะนำให้ไปตอนเย็นนะ จะได้ชิลๆ (อย่างที่บอก กลางวัน ที่ไหนก็ร้อน 555)

  

ปล. มีอะไรจะบอก เผื่อคนที่ยังไม่รู้ว่า เหมืองปิล๊อกกับ เหมืองสมศักดิ์ คนละที่กันนะจ๊ะ อย่าเข้าใจผิด  เหมืองปิล๊อก อยู่ข้างๆบ้านอีต่องอย่างที่บอก ส่วนเหมืองสมศักดิ์ คือเหมืองแห่งตำนานรัก ของ ป้าเกล็น สตรีชาวออสเตรเลีย เจ้าของสูตรเค้กอันโด่งดังของปิล๊อก ซึ่งทางเข้าเหมืองสมศักดิ์ จะอยู่ก่อนถึงบ้านอีต่อง และการไปจะต้องใช้รถ 4WD เท่านั้น เนื่องจากเส้นทางจะค่อนข้างหฤโหด รถเล็ก รถกระบะธรรมดา หมดสิทธิ์ จริงๆ ขนาดคนท้องถิ่นยังมีพลาด ติดหล่ม กันเป็นบางที ส่วนทริปนี้เราไม่ได้ไปเหมืองสมศักดิ์ เนื่องจากฝนตกค่อนข้างหนัก ก่อนที่เราไปถึง ทำให้เส้นทาง ไม่สามารถนำรถลงไปได้ ... อดเจอป้าเกล็นเลย T0T .. ครั้งหน้าไม่พลาดแน่ ^^ 

   

ทีนี้เรามาดูว่า รอบๆบ้านอีต่องมีอะไรให้เที่ยวอีกบ้าง มาเริ่มกันที่ วัดเหมืองปิล๊อก วัดนี้ สามารถนำรถขึ้นมาจอดด้านบนได้ หรือใครอยากออกกำลังก็สามารถเดินจากบ้านอีต่องขึ้นมาได้เหมือนกัน โดยเดินขึ้นบันได ที่อยุ่ตรงข้ามโรงเรียน ขึ้นมาได้เลย ในวัดมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เราได้กราบไหว้มากมาย โดยศิลปะส่วนใหญ่ เป็นแบบพม่า ทั้งเจดีย์ทรงพม่า และ พระใหญ่สีแดง ซึ่งไม่ได้ขึ้นไปกราบไหว้ เนื่องจากฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้ ต้องวิ่งหลบฝนกันจ้าละหวั่น  อีกอย่างคือ แอดไม่ค่อยูกกับวัด มันร้อน ^^ ใครไปมาแล้ว เอารูปมาอวดกันได้นะ

   

เลยจากวัดเหมืองปิล็อกขึ้นมาอีกนิด ก็จะมาถึง จุดชมวิวเนินเสาธง เป็นที่ตั้งของ เสาธงของไทย และ พม่า เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราสามารถชมวิว ทั้งฝั่งไทย และพม่าได้จากจุดนี้

 

เลยมาอีกนิดก็จะสุดเขตแดน ไทย-พม่า ที่ ช่องมิตรภาพ ซึ่งเมื่อเราผ่านจุดนี้ไปแล้ว แสดงว่า เราได้เข้าสู่ประเทศเมียร์ม่าร์ หรือ พม่าอย่างเต็มตัวแล้ว เราสามารถเข้าไปชมวิวและถ่ายภาพเป็นที่ระลึกได้ วิวสวย  และชาวบ้านบอกว่า ตอนเช้าๆ ในบางวันสามารถมาชมวิวทะเลหมอกที่จะนี้ได้ด้วย

 

  

อีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือ จุดชมวิวเนินช้างศึก อยู่ก่อนถึงบ้านอีต่อง เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและ ทะเลหมอกได้ตลอดทั้งปี รวมถึงชมวิวพระอาทิตย์ตกด้วยนะ รถเล็ก ก็ขึ้นได้ แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังค่อนข้างมาก

สุดท้าย กับ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น  น้ำตกที่เราสามารถเข้าถึงได้ง่าย เดินเพียง 300 เมตรจากที่จอดรถ ก็ถึงแล้ว ความจริง เราสามารถแวะเล่นน้ำตก และถ่ายรูปเล่น ก่อนที่เราจะเข้าไปยังบ้านอีต่อง เพราะจะถึงน้ำตกก่อนจ้า  จากภาพจะเห็นว่าน้ำค่อนข้างขุ่น เนื่องจากฝนตกก่อนที่เราจะไปถึงน้ำตกเพียง 1 ชม. ToT ซึ่งหากฝนไม่ตก บริเวณแอ่งน้ำ ที่รองรับน้ำตก จะเป็นสีเขียวมรกต ที่ทำให้ตัวน้ำตกมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น 

(ที่เราทราบก็เพราะเจ้าหน้าที่ที่ดูแล นำภาพที่ถ่ายก่อนที่ฝนจะตก วันเดียวกันก่อนที่เราจะไปถึงมาให้ดู  เขียวเชียว น้ำตาจะไหล... ในความสวยเหรอ...ไม่ใช่ ในความซวยของพวกเรา 555) อย่างไรก็ตามถึงแม้น้ำจะขุ่น น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ก็ยังเป็นน้ำตกที่สวยมากแห่งหนึ่ง อยู่ดี ไปกันนะ

   

   

   

หลังจากเล่นน้ำ ถ่ายรูปกันเสร็จ ก็ได้เวลากลับสู่โลกแห่งความเป็นจริง มุ่งหน้าสู่ กทม. เพื่อทำงานที่เรารัก ส่วนใครยังไม่เคยไป ปิล็อก ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เราแนะนำให้ไป ที่แนะนำให้ไปก็เพราะเราชอบ เลยแนะนำ และอีกหนึ่งเหตุผลที่แนะนำ คือ เราอยากให้คุณเป็นคนตัดสินใจจากความรู้สึกของคุณเองว่า ที่นี่ น่าไป หรือไม่.... TRIPWALKERS

DIRECTORY

FOLLOW US

บริษัท หนุ่มสาวทัวร์ จำกัด N.S. Travel & Tours Co.,Ltd

133/19-20 ถนนราชปรารภ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400

โทรศัพท์ : 0 2625 1555

โทรสาร   : 0 2246 5658

อีเมล์ : info@noomsaotours.co.th

เว็บไซต์ : www.noomsaotours.co.th

(เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของบริษัทหนุ่มสาวทัวร์) ติดต่อเรา

© 2024 N.S. Travel Co., Ltd. (Noom Sao Tours) All Rights Reserved.